วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ลมพิษ ภูมิแพ้

ลักษณะของลมพิษ คือ เป็นวงแดง รูปร่างต่างๆ กันเหมือนเอาลิปสติกผู้หญิงมาขีดวงไว้บนผิวหนังเป็นกลมบ้าง รีบ้าง รูปหยักบ้าง คล้ายวาดแผนที่ไว้บนตัว เนื้อภายในวงจะนูนเล็กน้อย และมีสีซีดกว่าขอบ อาการสำคัญคือ คันมาก คนไข้มักจะบอกว่า พอเกาตรงไหน ก็เป็นผื่นแดงขึ้นมาตรงนั้น ผื่นคันพวกลมพิษนี้มักจะเกิดอยู่ 3-4 ชั่วโมงและหายไปเอง หรือเกิดขึ้นใหม่ได้อีก จะเป็นๆ หายๆ อยู่ในระยะไม่เกิน 2 เดือน เรียกว่า “ลมพิษชนิดเฉียบพลัน” ถ้าเป็นอยู่นานกว่านี้เรียกว่า “ลมพิษชนิดเรื้อรัง” ลมพิษชนิดเรื้อรังเป็นอยู่ได้เป็นปีๆ

สาเหตุของลมพิษ มีมากมายหลายชนิด กลไกที่ทำให้เกิดเป็นผื่นขึ้นมา จึงเป็นเรื่องซับซ้อนอธิบายกันว่า เมื่อสิ่งใดที่ทำให้เกิดลมพิษได้มาถูกผิวหนัง หรือถูกนำเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโดยการกิน การดมสูดเข้าไป หรือฉีดเข้าไป (ไม่จำเป็นต้องฉีดยา) ตัวอย่างเช่น มดกัด ในคนที่แพ้ก็จะเกิดปฏิกิริยาขึ้นในร่างกาย เกิดการขับสาร ชื่อ ฮีสตามีน (สารแพ้) ออกมาจากเซลล์ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผนังเส้นเลือดพองขยายตัวออก น้ำเหลืองและโปรตีนหลุดออกมา เกิดรอยนูนแดง และคันขึ้นบนผิวหนัง ว่ากันว่า สารเคมีอีกบางชนิด เช่น “บราดิไคนิน” “โปรสแกลนดิน” และ “เสโรโตมิน” ก็มีส่วนร่วมในปฏิกิริยานี้เช่นกัน

สาเหตุของลมพิษก็มีหลายอย่าง เช่น พวกทำให้เกิดการแพ้ คือ อาหาร ยา ซีรั่ม พิษสัตว์ ขนแมว ขนหมา อาหารทะเล ไข่ ส้ม ขนมจีน เป็นต้น สิ่งแวดล้อมทั่วร่างกายก็ทำให้เกิดลมพิษได้ เช่น แดด ความร้อน ความเย็น น้ำ น้ำแข็ง การกด การยกน้ำหนัก เป็นต้น โรคในร่างกายก็ทำให้เกิดลมพิษได้ เช่น มะเร็ง ฟันผุ หูเป็นน้ำหนวก พยาธิลำไส้ แม้แต่ไม่เป็นอะไรเกิดหงุดหงิดคิดมาก ก็เป็นลมพิษได้เหมือนกัน

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ฝึกเพื่อหาความสุข

8 ข้อปฏิบัติเพื่อฝึกหาความสุข ::

1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้
หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่าเป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดา อย่าเป็นคนสำคัญ เวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา อย่าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมากไป

2. ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม
หมายความว่า การสะสมอะไรสักอย่างนั้นเป็นภาระ ไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดี นอกนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย

3. ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ
หมายความว่า อย่าไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริง มีแต่คนโง่เท่านั้นที่มองว่า ความสมบูรณ์แบบมีจริง

4. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนนิ่งๆ หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่ดีๆ
หมายความว่า ถ้าอะไรไม่ดีก็อย่าไปพูดมากไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด แต่ถ้ามันไม่ดี เป็นไปได้ก็ไม่ต้องพูด เพราะการพูด หรือวิจารณ์ในทางเสียหายนั้น มีแต่ทำให้จิตใจตนเองตกต่ำ และขุ่นมัว

5. ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอ
หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไป เวลามีความทุกข์ ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไป เวลามีสถานการณ์แย่ๆ เกิดขึ้น ก็ให้รู้ทันว่า เรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้อยู่กับเราจนวันตาย

6. ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา
หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทาแน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า "เรามาถูกทางแล้ว" แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลก คนที่ชอบเต้นแร้งเต้นกา กับคำนินทาก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลก แม้แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังนินทาลูก คนเป็นลูกก็ยังนินทาพ่อแม่ นับประสาอะไรกับคนอื่น ถ้าเราห้ามตัวเองไม่ให้นินทาคนอื่นได้เมื่อไหร่ ค่อยมาคิดว่า เราจะไม่ถูกนินทา

7. ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นขี้ข้าของเงิน
หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ รถยนต์ใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน นาฬิกาใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน เสื้อผ้าใช้อะไรอยู่ ก็หัดพอใจกับมัน การที่คนเราจะเลิกเป็นขี้ข้าเงินได้ ต้องเริ่มจากการรู้จักเพียงพอก่อน เมื่อรู้จักพอแล้ว ก็ไม่ต้องหาเงินมาก เมื่อไม่ต้องหาเงินมาก ชีวิตก็มีโอกาสทำอะไรที่มากกว่าการหาเงิน

8. ฝึกให้ตัวเองเสียสละ และยอมเสียเปรียบ
หมายความว่า การที่คนๆ หนึ่งยอมเสียเปรียบผู้อื่นบ้าง เป็นเรื่องจำเป็น ใครก็ตามที่บ้าความถูกต้อง บ้าเหตุบ้าผล ไม่ยอมเสียเปรียบอะไรเลย ไม่ช้า คนๆ นั้นก็จะเป็นบ้าสติแตก กลายเป็นคนที่ถูกทุกอย่างแต่ไม่มีความสุข เพราะต้องสู้รบกับคนรอบข้างเต็มไปหมดเพื่อความถูกต้องที่ตนเองยึดมั่นถือมั่น...

- People Magazine -